กรุงเทพฯ, ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง AIS และ ตำรวจไซเบอร์ ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ประกาศมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” เพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยเฉพาะการหลอกลวงด้วยการส่ง SMS ปลอม ที่มีลิงก์หลอกลวงให้ผู้รับคลิกลิงก์เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและเงินจากผู้เสียหาย
การปฏิบัติการเริ่มต้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งว่าได้รับข้อความหลอกลวงระบุว่า “คะแนน 9,268 ของคุณใกล้หมดอายุแล้ว รีบแลกของขวัญเลย” ซึ่งภายในข้อความนั้นมีลิงก์หลอกลวงที่อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลทางการเงิน เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) จึงได้ประสานงานกับทีมวิศวกรของ AIS เพื่อตรวจสอบต้นตอของข้อความดังกล่าว
จากการตรวจสอบ พบว่าเครื่องมือที่ใช้ในการส่งข้อความดังกล่าวมาจาก เครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ในการส่งสัญญาณปลอมของเครือข่าย AIS โดยเครื่องนี้ไม่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. และไม่ผ่านการควบคุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การใช้เครื่องมือดังกล่าวทำให้ผู้ต้องสงสัยสามารถส่งข้อความหลอกลวงไปยังประชาชนในย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่มีคนพลุกพล่าน
จากการสืบสวนต่อเนื่อง ทีมตำรวจไซเบอร์และวิศวกรของ AIS สามารถติดตามและจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนได้ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่บริเวณย่านสุขุมวิท โดยตรวจสอบในรถพบเครื่องส่งสัญญาณปลอมกำลังทำงานอยู่ ซึ่งเป็นการขัดต่อกฎหมายโทรคมนาคม เนื่องจากเครื่องดังกล่าวไม่ผ่านการรับรองจาก กสทช. และถือเป็นอุปกรณ์เถื่อนที่ผิดกฎหมาย
การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จในการทำลายวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวงผู้คนอย่างมีระบบ โดยการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการหยุดยั้งอาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและเศรษฐกิจ
นาย วรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ของ AIS กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม AIS ให้ความสำคัญกับการปกป้องความปลอดภัยของลูกค้า ซึ่งเราได้ร่วมมือกับตำรวจและหน่วยงานภาครัฐในการติดตามตรวจสอบและบล็อกการใช้เครือข่ายในทางที่ไม่ถูกต้อง โดยมีการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถรายงานและป้องกันมิจฉาชีพได้ เช่น บริการ 1185 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแจ้งเตือนและบล็อกหมายเลขที่สงสัยได้ทันที”
AIS ยังได้เพิ่มช่องทางในการให้ข้อมูลแก่ประชาชน เช่น ระบบ Spam Report Center ที่สามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการหลอกลวงได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ บริการ 1185 ที่สามารถช่วยให้ลูกค้าปิดการใช้งานเบอร์โทรศัพท์ที่น่าสงสัย
อย่างไรก็ตาม AISFIBRE ได้แนะนำให้ประชาชนระมัดระวังไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่าน SMS หรือลิงก์ที่ได้รับจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และขอให้ลูกค้า AIS ใช้ฟังก์ชันความปลอดภัยที่มีอยู่ เช่น การปฏิเสธข้อมูลส่วนบุคคลหรือรหัส OTP หากได้รับการติดต่อจากแหล่งที่ไม่รู้จัก เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง
เรียบเรียงโดย AISFIBREFORYOU
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://investor-th.ais.co.th/news.html/id/2519596/group/newsroom_press